Read this article in Englishแพทย์ในกรุงเทพฯ วิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์ด้วย AI ซึ่งนำไปสู่การวินิจฉัยผู้ป่วยที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น เกษตรกรใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากระบบ AI มาวินิจฉัยข้าวและวิเคราะห์ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้มากที่สุด ในการเกษตรทางภาคกลางของประเทศไทย ตัวอย่างเหล่านี้ไม่ใช่ความฝันอันเลือนรางอีกต่อไป แต่คือความเป็นจริงที่เผยให้เห็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของ AI ในประเทศไทยAI กำลังเริ่มปฏิรูปอุตสาหกรรมและเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการบริการดูแลสุขภาพไปจนถึงการเกษตร แม้ว่าเส้นทางยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ AI ก็มีศักยภาพมหาศาลในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปรับปรุงคุณภาพชีวิต และแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนในบล็อกโพสต์นี้ เราจะมาเจาะลึกกันว่า AI จะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจไทยได้อย่างไร รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและปลอดภัย นอกจากนี้ เรายังจะศึกษาว่าผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google กำลังช่วยปลดล็อกศักยภาพของประเทศไทย ผลักดันให้ธุรกิจเติบโต และช่วยคนทั่วไปให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร

การเร่งการนำ AI มาใช้สำหรับธุรกิจไทย

วงการเทคโนโลยีของไทยนั้นเอื้อต่อการเกิดนวัตกรรม ทั้งสตาร์ทอัพและบริษัทที่มีชื่อเสียงต่างนำ AI มาใช้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและสร้างโอกาสใหม่ๆ รัฐบาลมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมระบบนิเวศนี้ ด้วยการริเริ่มโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและดึงดูดการลงทุนด้าน AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องแนวทางเชิงรุกในการพัฒนา AI นี้ได้นำมารวบรวมไว้ในแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565 – 2570) (National AI Strategy and Action Plan 2022 – 2027 หรือ NAIS) ที่ครอบคลุม โดยมุ่งเน้นในด้านสำคัญต่างๆ เช่น กฎระเบียบและจริยธรรม, โครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI, การพัฒนาบุคลากร, การวิจัยและนวัตกรรม และการประยุกต์ใช้ AI ทั้งในภาครัฐและเอกชนเมื่อปีที่แล้ว เราได้นำเสนอข้อมูลว่า การนำ AI ไปใช้สามารถช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่ง โดยจะปลดล็อกผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมูลค่า 2.6 ล้านล้านบาทสำหรับภาคธุรกิจในปี 2030 ซึ่งคิดเป็น 15% ของโอกาสด้าน AI ในปี 2030 สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียวการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าภาคส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะการผลิต การบริโภค ค้าปลีกและธุรกิจบริการ ตลอดจนบริการด้านการขนส่ง คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการประยุกต์ใช้ AI
รายละเอียดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจรายปีที่อาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่ใช้ AI แยกตามภาคส่วน (%, 2030)
การเข้าถึง AI ในชีวิตประจำวันด้วย Googleธุรกิจต่างๆ ของไทยสามารถเข้าใช้งาน AI ผ่านผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่างๆ ที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google เราประมาณการว่า

ในปี 2023 Google Search, Google Ads, Google AdSense, Google Play, Google Cloud และ YouTube ได้ช่วยทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจสำหรับธุรกิจต่างๆ เป็นมูลค่าถึง 1.742 แสนล้านบาท

กิจกรรมดังกล่าวรวมถึง
  • 40% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (6.94 หมื่นล้านบาท) เป็นรายได้ของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
  • ผลประโยชน์ด้านการส่งออกมูลค่า 2.29 หมื่นล้านบาท ในปี 2023 Google Search, Google Ads, Google AdSense, Google Play และ YouTube ได้ช่วยให้เกิดผลประโยชน์ด้านการส่งออกจากตลาดต่างประเทศให้ธุรกิจในประเทศเป็นมูลค่าถึง 2.29 หมื่นล้านบาท
  • งาน 184,100 ตำแหน่ง ในปี 2023 ทาง Google ได้สนับสนุนงานกว่า 184,100 ตำแหน่งด้วยการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เติบโตผ่านการใช้ Google Search, Google Ads, Google AdSense, Google Cloud และ YouTube โดยที่ระบบเศรษฐกิจแอป Android ได้สนับสนุนงานเพิ่มเติมอีกกว่า 93,000 ตำแหน่ง
หลากหลายธุรกิจในไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google เพื่อขยายการดำเนินงาน ตั้งแต่ธุรกิจแฟชั่นไปจนถึงการบริการดูแลสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทเภสัชกรรมอย่างไทยโอซูก้าใช้ AI จากโซลูชันโฆษณาของ Google เพื่อเพิ่มรายได้ถึง 44% และวิธีที่บริษัทอย่าง KASIKORN Business-Technology Group (KBTG) Labs สร้างนวัตกรรมโซลูชัน AI ด้วย Google Cloudภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับรัฐบาลไทย Google ได้ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเร่งการนำ AI มาใช้ในภาครัฐ โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ ของ Google Cloud ในการติดตั้งใช้งานโซลูชัน Generative AI เพื่อสาธารณประโยชน์ ส่วนที่สำคัญๆ ประกอบไปด้วยบริการภาครัฐบนระบบอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีทางการเงิน ระบบบริการสาธารณสุข การศึกษา และการขนส่ง

การสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและปลอดภัย

ในการเร่งการนำ AI มาใช้ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและปลอดภัยจะสำคัญกว่าที่ผ่านมา ในความเป็นจริงแล้ว AI เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัย ซึ่งจะส่งเสริมนวัตกรรม AI เราพบว่าหากธุรกิจนำความสามารถด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ทำงานด้วยระบบ AI มาใช้ จะป้องกันความสูญเสียจากอาชญากรรมไซเบอร์ได้ถึง 1.5 แสนล้านบาทสำหรับประเทศไทยในปี 2030การเสริมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลด้วยผลิตภัณฑ์และบริการของ GoogleGoogle ได้ทำงานร่วมกับประเทศไทยเพื่อปรับปรุงระบบนิเวศของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ นอกจากการช่วยให้คนไทยสร้างทักษะด้านความปลอดภัยออนไลน์ผ่านโครงการ Safer Songkran แล้ว เรายังร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการเปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัย Google Play Protect ใหม่ไปเมื่อเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 2 ในโลกที่ได้ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้ชาวไทยจะได้รับการปกป้องจากการติดตั้งแอปความเสี่ยงสูงจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก
[ภาพหน้าจอฟีเจอร์ความปลอดภัย] 2024 [รูปภาพ] Google
นอกจากจะมีส่วนร่วมในการสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยแล้ว Google ยังลงทุนในการเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทยด้วย ล่าสุดมีการลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลในชลบุรีและ Google Cloud Region ในกรุงเทพฯ

โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า “รัฐบาลไทยรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของ Google ในการเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลที่จำเป็นให้แก่คนไทยหลายล้านคน รวมถึงแผนล่าสุดในการมอบเครื่องมือและความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงานในโลกแห่งอนาคตให้แก่ประชาชนชาวไทยจำนวนมากขึ้น”

โครงการเหล่านี้มีส่วนร่วมต่อการเสริมสร้างศักยภาพให้แก่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทยที่จะสนับสนุนนวัตกรรมที่ทำงานด้วยระบบ AI และการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การทำให้คนไทยมีทักษะที่พร้อมใช้งาน AI

ในการใช้ประโยชน์จากโอกาสด้าน AI อย่างเต็มประสิทธิภาพ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีบุคลากรที่พร้อมสำหรับ AI โดยภายใต้ยุทธศาสตร์ NAIS นี้ได้มีการจัดสรรงบประมาณ 1.5 พันล้านบาทสำหรับโครงการระดับเรือธง โดยที่ 1 พันล้านบาทจะนำไปใช้ในการเพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI ของประเทศให้ได้ 30,000 คนเป็นที่น่ายินดีว่า งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแรงงานไทยยอมรับ AI ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว โดย 92% ของผู้ปฏิบัติงานด้วยฐานความรู้ (Knowledge Workers) จะใช้ AI ในการทำงาน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 75% อย่างเห็นได้ชัด ประชากรที่มีความรู้ด้านดิจิทัลจะพร้อมยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งสำหรับการนำ AI มาใช้ต่อไปการสร้างบุคลากรที่พร้อมสำหรับ AI ด้วย GoogleGoogle กำลังช่วยเสริมสร้างทักษะด้านการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและ AI ที่จำเป็นให้กับคนไทย เพื่อให้ประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ โดยตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา Google ได้ฝึกอบรมทักษะการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลให้คนไทยไปแล้วกว่า 3.6 ล้านคน ตัวอย่างบางโครงการล่าสุด
  • Samart Skills: นักเรียน/นักศึกษาและผู้หางานกว่า 13,000 คนได้รับการฝึกอบรมทักษะการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
  • Gemini Academy: Google ตระหนักถึงความสำคัญของความฉลาดรู้ด้าน AI ในการศึกษา จึงได้ฝึกอบรมครูผู้สอนกว่า 20,000 คนผ่าน Gemini Academy เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะแนะนำคนรุ่นต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 96% ของผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมบอกว่า AI ช่วยสนับสนุนการสอนของตน
นอกจากนี้ Google ยังลดอุปสรรคในการศึกษาด้าน AI ด้วยการทำให้ทรัพยากรที่จำเป็นเข้าถึงได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น หลักสูตร Introduction to Generative AI Learning Path ผ่าน Google Cloud Skills Boost และ Google AI Essentials ที่เพิ่งเปิดตัวไป ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะที่พร้อมรับอนาคตให้กับผู้คน โดยทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 10 ชั่วโมงและไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อนในการส่งเสริมการเข้าถึงความรู้ด้าน AI อย่างเท่าเทียมต่อไป Google.org ได้เปิดตัวกองทุน AI Opportunity Fund มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะด้าน AI ที่สำคัญและสร้างความมั่นใจให้กับแรงงานและผู้หางาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนที่ขาดแคลนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยอีกหนึ่งโครงการริเริ่มที่ส่งเสริมการไม่แบ่งแยกและการเข้าถึง AI คือ ความร่วมมือระหว่าง Google กับ AI Singapore ในโครงการ SEALD เพื่อทำให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ครอบคลุมผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นโดยปรับปรุงชุดข้อมูลสำหรับภาษาท้องถิ่น รวมถึงภาษาไทยด้วยด้วยความพยายามที่ครอบคลุมเหล่านี้ Google กำลังส่งเสริมบุคลากรที่พร้อมสำหรับ AI ในประเทศไทย เสริมสร้างทักษะให้แก่บุคคลและชุมชนในการยอมรับศักยภาพการเปลี่ยนแปลงของ AI และมีส่วนร่วมต่อเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต

ก้าวสู่ประเทศไทยที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างทั่วถึง สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาใช้ระบบ AI ตั้งแต่การปฏิวัติด้านการบริการดูแลสุขภาพไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเกษตร ผลกระทบของ AI กำลังเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วประเทศ ซึ่งศักยภาพสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางสังคม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตนั้นมีอยู่อย่างมหาศาลผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google กำลังเสริมศักยภาพให้ธุรกิจและบุคคล ด้วยการผลักดันนวัตกรรมและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และการศึกษาด้าน AI กำลังเสริมสร้างความพร้อมด้าน AI ของประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม ศักยภาพที่แท้จริงของ AI อยู่ที่การทำงานร่วมกัน ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ และประชาชน ประเทศไทยจะสามารถรับมือกับความท้าทาย คว้าโอกาส และมั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการใช้ AIข้อมูลสำคัญ: โพสต์นี้จัดเตรียมโดย Access Partnership สำหรับ Google ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้รับหรือประเมินจากการวิเคราะห์ของ Access Partnership โดยใช้ทั้งข้อมูลที่ไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของ Google และข้อมูลสาธารณะ Google ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ หรือไม่ได้รับรองการประมาณการใดๆ ที่เกิดขึ้นในโพสต์นี้